ผลไม้ที่มีความหวาน กรอบ อร่อย ในโลกนี้น่าจะมีหลายชนิด แต่ ‘แอปเปิล’ ถือว่าเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนไม่ว่าจะเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย หรือ ผู้สูงอายุ ตามที่เคยได้รู้มา นอกจากแอปเปิลจะเป็นผลไม้หาทานง่ายรสดีแล้ว แอปเปิลยังมีประโยชน์หลายอย่างด้วย…‘แอปเปิล’ มีสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มีวิตามินซีเป็นหลัก แต่จะมีมากหรือมีน้อยก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวและความสด ในเนื้อและเปลือกของแอปเปิลมีเส้นใยตัวสำคัญชื่อว่า ‘เพคติน’ ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกากใยในทางเดินอาหาร ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น แล้วยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กับช่วยจับคลอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เป็นการป้องกันโรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง โดยที่เปลือกยังมี ‘สารฟลาโวนอยด์’ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งส่วนเปลือกมีมากกว่าส่วนเนื้อของแอปเปิลถึง 5 เท่า นอกจากนี้ แอปเปิลได้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินเอ กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสีและเหล็ก รวมถึงมีกรดอินทรีย์อีก 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ที่เป็นตัวช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน
รู้ไหมว่า แอปเปิลแต่ละสีมีวิตามินและแร่ธาตุคล้ายคลึงกัน แต่จะมีคุณประโยชน์ไม่เหมือนกัน ดังนี้
– แอปเปิลสีเขียว เป็นแอปเปิลที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อกรอบ มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการไม่ต่างจากสี่
อื่น แต่มีคุณสมบัติเด่นคือ มีน้ำตาลน้อยกว่าและให้พลังงานน้อยที่สุด ฉะนั้น แอปเปิลสีเขียวจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนัก เนื่องจากมีปริมาณไฟเบอร์และวิตามินซีมากกว่าสีอื่นเล็กน้อย
– แอปเปิลสีแดงเข้ม จะมีรสชาติหวานมากกว่าแอปเปิลสีอ่อน ทั้งยังคงทนอยู่ได้นานกว่าสีอื่น จุดเด่นของแอปเปิล
สีแดงคือ เปลือกอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะได้รับก็ต่อเมื่อรับประทานทั้งเปลือก แต่ควรจะล้างให้สะอาด เพื่อชะล้างสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง
– แอปเปิลสีชมพู (อมแดง) จะมีรสชาติหวาน แต่ไม่กรอบมากเหมือนสีแดง คุณประโยชน์มีพอๆ กับแอปเปิลสีแดง
เพราะมีวิตามินซีถึง 1ใน 4 ของปริมาณวิตามินซีที่ควรจะได้รับต่อวัน
– แอปเปิลสีเหลือง จะมีรสชาติหวาน หอม นุ่มละมุน แต่แอปเปิลสีนี้มักจะไม่ค่อยเห็นตามท้องตลาดนัก แอปเปิล
สีเหลือสามารถช่วยเรื่องล้างสารพิษ เช่น ล้างสารพิษจากตับ แล้วยังช่วยบำรุงสายตาและก็พบว่า การรับประทานแอปเปิลสีเหลืองจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกได้ด้วย
ด้านสรรพคุณ แอปเปิลก็มีไม่น้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่น คือ
1. แอปเปิลช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยเพราะแอปเปิลมีไฟเบอร์สูงจึงทำให้ระบบขับถ่าย
ดีขึ้น แล้วที่เปลือกก็ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยล้างสารพิษและต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นการรับประทานแอปเปิลควรจะรับประทานทั้งเปลือกจะให้คุณประโยชน์มากกว่า
2. แอปเปิลช่วยควบคุมน้ำหนักทำให้ไม่เกิดโรคอ้วน เนื่องจากแอปเปิลช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดจึงทำให้ระบบเผา
ผลาญทำงานได้ดีขึ้น แอปเปิลจึงเหมาะกับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนัก
3. แอปเปิลช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง วิตามินซีและสารเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแอปเปิลสามารถช่วยป้องกัน
อันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลตและสารอนุมูลอิสระที่อยู่ในแสงแดดได้
4. แอปเปิลช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและช่วยลดคลอเลสเตอรอล
เป็นเพราะแอบเปิลมีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ แล้วมี เพคติน คอยดักจับคลอเลสเตอรอลก่อนจะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกาย
5. แอปเปิลช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ทำให้ห่างไกลโรคอัลไซเมอร์ การดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นเป็นการ
ช่วยเสริมความจำและช่วยชะลอภาวะความจำเสื่อม สำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
6. แอปเปิลช่วยป้องกันโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ การรับประทานแอปเปิลเป็นประจำสามารถช่วยให้โรคที่เกิดจาก
การอักเสบของทางเดินหายใจดีขึ้น
7. แอปเปิลช่วยลดโอกาสการเกิดโรคไขข้อ โรครูมาตอยด์ โรคเกาต์และลดการอักเสบของข้อต่อ เนื่องด้วยแอปเปิล
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงสามารถช่วยลดอัตราการฉีกขาดของเส้นเอ็นและช่วยชะลอกระบวนการของโรคข้อกระดูกอักเสบ ทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบของโรคเกาต์และโรครูมาตอยด์ได้
8. แอปเปิลช่วยลดการเกิดโรคต้อกระจก ทำให้ระบบสายตาดีขึ้น เพราะสารเบต้าแคโรทีนและสารเควอร์ซิตินที่อยู่
ในแอปเปิลเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับระบบสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตาและช่วยให้มองในที่มืดได้ชัดเจนขึ้น
9. แอปเปิลช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย ในแอปเปิลมีคอลลาเจนและอิลาสตินที่ช่วยเพิ่มความ
ยืดหยุ่นของผิวทำให้มีสุขภาพดีไม่แก่ก่อนวัย แล้วยังช่วยลดการอักเสบของสิวและลดจุดด่างดำอีกด้วย
แม้ว่า การรับประทานแอปเปิลจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยุ่งยาก แต่ควรจะรับประทานให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ โดยการล้างแอปเปิลให้สะอาดก่อนจะนำไปรับประทาน เนื่องจากบนผิวแอปเปิลอาจจะมีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงหรือสารแว็กซ์ผิว สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ อาทิ แอพปริคอต อัลมอนด์ ลูกพับ ลูกแพร์ พีชหรือสตรอเบอรี ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานแอปเปิล เพราะอาจจะเกิดการแพ้ได้ ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานควรจะต้องสังเกตระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเอง รวมทั้งจำกัดปริมาณการรับประทานแอปเปิล เพราะอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
เหล่านี้ล่ะคือ คุณประโยชน์และข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ ในการรับประทานแอปเปิล…ผลไม้สีสวยที่ทานเมื่อไรก็ชื่นใจเมื่อนั้น